“ยาง” ความปลอดภัยในสายฝน
เข้าหน้าฝน ผู้ใช้รถหลายๆ คน อาจปวดหัวกับปัญหา "รถลื่นไถล" ซึ่งเป็นปัญหา ที่มักจะเกิดขึ้นบนท้องถนน ในช่วงฤดูนี้ของทุกๆ ปี ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นดังกล่าว ย่อมนำมา ซึ่งความเสียหาย และบางครั้ง ก็ไม่เพียงก่อให้เกิดความสูญเสีย ในทรัพย์สิน และชีวิตของผู้ขับขี่รถยนต์ คันดังกล่าวเท่านั้น แต่ยังอาจก่อให้เกิดผลร้าย ต่อเพื่อนร่วมท้องถนน อีกหลายร้อยชีวิตอีกด้วย
เข้าหน้าฝน ผู้ใช้รถหลายๆ คน อาจปวดหัวกับปัญหา "รถลื่นไถล" ซึ่งเป็นปัญหา ที่มักจะเกิดขึ้นบนท้องถนน ในช่วงฤดูนี้ของทุกๆ ปี ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นดังกล่าว ย่อมนำมา ซึ่งความเสียหาย และบางครั้ง ก็ไม่เพียงก่อให้เกิดความสูญเสีย ในทรัพย์สิน และชีวิตของผู้ขับขี่รถยนต์ คันดังกล่าวเท่านั้น แต่ยังอาจก่อให้เกิดผลร้าย ต่อเพื่อนร่วมท้องถนน อีกหลายร้อยชีวิตอีกด้วย
หลายคนอาจบอกว่าตนพยายามขับรถอย่างระมัดระวังในระดับหนึ่งแล้ว แต่เหตุที่เกิดเป็นเพราะถนนลื่น ทำให้ไม่สามารถควบคุมรถได้ ซึ่งเมื่อเราดูถึงปัจจัยที่ก่อให้เกิดปัญหาให้ละเอียดลงไป จะพบว่าการลื่นไถลของรถยนต์ไม่ใช่ว่าเป็นเพียงเพราะน้ำฝนที่เจิ่งถนนเท่านั้น แต่ยังเป็นเพราะสิ่งสกปรกบนท้องถนนอีกหลายๆ อย่าง เช่น น้ำมัน เนื่องจากว่าน้ำมันมีคุณสมบัติเป็นตัวลดแรงเสียดทาน ทำให้แรงเสียดทานระหว่างพื้นถนนกับยาง ลดลง ปัญหาน้ำขัง และสิ่งสกปรกบนท้องถนนดังกล่าว ถือเป็นปัจจัยภายนอกที่ผู้ขับขี่ไม่สามารถควบคุมได้ ดังนั้นหนทางป้องกันที่ดีที่สุดก็คือ การค้นหาสิ่งที่เราพอจะทำได้ เพื่อลดโอกาสของการเกิดอุบัติเหตุข้างต้นให้ได้ผลมากที่สุด ซึ่งก็พอจะช่วยให้การเดินทางในช่วงหน้าฝนนี้เป็นไปอย่างราบรื่น และปลอดภัย และสิ่งสำคัญที่ว่าอย่างหนึ่งก็คือ "ยางรถยนต์" อุปกรณ์สำคัญที่ผู้ขับขี่ไม่ควรมองข้าม และควรจะเลือกใช้ให้เหมาะกับสภาพการใช้งานและลักษณะของตัวรถ ซึ่งในปัจจุบันจะเห็นว่าบริษัทผู้ผลิตยางรถยนต์พยายามออกแบบยางให้มีลวดลายที่หลากหลาย เพื่อให้ผู้ขับขี่ได้เลือกใช้ตามสภาพการใช้งานที่แตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็นเพื่อสำหรับการขับขี่ความเร็วสูง เส้นทางโค้ง หรือว่าต้องลุยน้ำบ่อยครั้ง และต่อไปนี้เป็นตัวอย่างที่สามารถใช้งานได้อย่างปลอดภัยในช่วงหน้าฝนนี้
ซัมเมอร์ ไทร์ (Summer Tyres) ยางประเภทนี้ มีคุณสมบัติเด่นในการเพิ่มประสิทธิภาพการขับขี่และการเบรกทั้งในสภาพถนนที่แห้งและเปียก พื้นยางอยู่ในรูปแบบ บล็อก-เชป (Block-shape) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเกาะถนน โดยการเพิ่มความฝืดระหว่างผิวสัมผัสของยางรถยนต์และพื้นถนน
บล็อก-เชป ประกอบด้วยลวดลายสี่เหลี่ยมเล็กๆ ตัดกับร่องทางด้านข้างซ้าย-ขวา เพื่อเพิ่มความฝืด ทำให้การควบคุมพวงมาลัยขณะที่ขับผ่านบริเวณถนนเปียกเป็นไปอย่างง่ายดายยิ่งขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพในการทรงตัวให้แก่รถ ไม่เกิดการไถล โดยดอกยางจะทำการไล่น้ำไปในตัว
อย่างไรก็ตาม การที่พื้นยางประเภทนี้ถูกแบ่งเป็นช่องเล็กๆ จะส่งผลให้ยางมีน้ำหนักมากกว่ายางทั่วไปเล็กน้อย แต่ว่ายางประเภทนี้ก็สามารถใช้กับรถยนต์นั่งส่วนบุคคลทั่วไปได้เป็นอย่างดี
แอซซิมเมทริค แพทเทิร์น (Asymmetric pattern) เป็นยางที่อาจดูแปลกตากว่าลายอื่น เนื่องจากหน้ายางซ้าย-ขวา มีลวดลายที่ไม่เหมือนกัน ทั้งนี้เป็นเพราะว่าการออกแบบดังกล่าว ต้องการให้สามารถทำหน้าที่ทั้งการเพิ่มแรงเสียดทาน ทำให้ประสิทธิภาพในการเกาะถนนในพื้นที่ปกติได้ผลดี และเมื่อต้องลุยน้ำก็จะสามารถรีดน้ำได้ดีเช่นกัน ยางประเภทนี้จึงเหมาะกับรถที่มีใช้งานในเส้นทางที่มีโค้งมากๆ และผู้ขับขี่ใช้ความเร็วสูง เนื่องจากตัวยางมีพื้นที่สัมผัสถนนมาก แอซซิมเมทริค แพทเทิร์น เป็นยางที่ได้รับความนิยมกับรถประเภทสมรรถนะสูงๆ
ไดเร็กชั่นแนล แพทเทิร์น (Directional pattern) หน้ายางจะเป็นร่องยาวขนานกันไปซ้าย-ขวา ซึ่งการที่มีรูปแบบของร่องยางขนานกัน ไม่เพียงแต่จะช่วยในส่วนของการเพิ่มกำลังขับเคลื่อนและเบรก แต่ยังถือว่ามีประสิทธิภาพอย่างยิ่งในการรีดน้ำ ทำให้รถสามารถทรงตัวได้เป็นอย่างดีในกรณีที่มีน้ำขัง ซึ่งยางชนิดนี้เหมาะสำหรับรถยนต์ที่ขับขี่ด้วยความเร็วสูงโดยเฉพาะ
แต่สำหรับผู้ขับขี่บางท่านที่เห็นว่าการเปลี่ยนยางรถยนต์ให้เหมาะกับการใช้งานในแต่ละฤดูนั้นอาจดูเป็นเรื่องที่ฟุ่มเฟือย
เนื่องจากประเทศไทยมีถึง 3 ฤดู การหันมาใช้ยางรถยนต์ที่เหมาะกับสภาพถนนในทุกฤดู (All-season Tyres) ก็อาจเป็นทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจไม่น้อย เพราะมีการออกแบบมาให้สามารถใช้งานตลอดทั้งปี แต่ว่าในแต่ละความสามารถก็อาจจะสู้ยางที่ออกแบบมาโดยเฉพาะไม่ได้ นอกจากนั้นข้อเสียอีกอย่างหนึ่งคือการมีเสียงรบกวนมากกว่ายางชนิดอื่น
ซึ่งหากท่านเจ้าของรถเลือกยางได้อย่างเหมาะสม บวกกับการดูแลเอาใจใส่รถเป็นอย่างดีในทุกรายละเอียด ก็เชื่อว่าหน้าฝนปีนี้ ทุกคนจะมีความสุขกับการเดินทางไม่ว่าจะเป็นฝนพรำ หรือกระหน่ำหนักก็ตาม
อาการเตือนก่อนที่ยางจะระเบิด
ขณะที่คุณขับรถอยู่ ถ้าปรากฏว่าพวงมาลัยสั่นสะเทือนผิดปกติและบังคับรถได้ยากโดยเฉพาะในขณะเลี้ยว ทั้ง ๆ ที่ไม่มีปัญหาเรื่องถ่วงล้อและศูนย์ล้อหน้าก็เป็นปกติ ลูกหมากไม่หลวม ขณะขับมาตอนแรก ๆ พวงมาลัยไม่สั่น อาการนี้เป็นสิ่งบอกเหตุว่ายางรถยนต์เริ่มบวมพร้อมจะระเบิดแล้ว ควรชะลอความเร็วและจอดรถในบริเวณที่ปลอดภัย ลงจากรถ แล้วรีบตรวจสภาพยางทันที ซึ่งโดยส่วนมากจะพบว่ายางร้อนจัดและบวมเนื่องจากเสื่อมสภาพ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น