ทางที่ดีท่านควรจะมีอู่ประจำและไว้ใจได้ เพราะท่านจะต้องใช้บริการในการตรวจเช็คเครื่องยนต์อยู่เสมอ ช่างที่ซ่อมประจำจะรู้จักเครื่องยนต์ของท่านเป็นอย่างดี ควรหาร้านที่มีอะไหล่ครบหรือสามารถหาเปลี่ยนให้ได้ และมีความซื่อสัตย์ต่อลูกค้า ในกรณีที่ท่านมีปัญหาในเรื่องรถยนต์แล้วจะนำรถเข้าอู่สิ่งที่ท่านจะต้องปฏิบัติคือ
- อย่าเชื่อคนที่ไม่เกี่ยวข้องหรือไม่มีความรู้เรื่องช่างจริง ควรจะคุยกับช่างใหญ่ดีกว่า
- บอกอาการเสียของรถให้ละเอียด ประวัติการซ่อม หรือเปลี่ยนอะไหล่ที่เกี่ยวข้องกับการเสีย
- ถ้าต้องทิ้งรถไว้ ควรนำข้าวของในรถที่ไม่จำเป็นออก เช่น เทป หนังสือ หรือของใช้อื่น ๆ เก็บไว้ที่บ้าน
- ควรขอที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ของร้านเพื่อจะได้โทรมาสอบถามและทิ้งที่อยู่ของคุณไว้ให้ช่างในกรณีที่ต้องการโทรมาสอบถามเรื่องการตัดสินใจเปลี่ยนอะไหล่
- ควรเก็บคู่มือและสเปคเครื่องต่าง ๆ ไว้เพื่อให้ช่างตรวจดูเครื่องยนต์ได้สะดวก
- ขอบิลที่ลงรายละเอียดเกี่ยวกับการเปลี่ยนอะไหล่และเก็บไว้ให้ดีเพื่อการตรวจเช็คและยืนยัน
- ตรวจสอบอุปกรณ์อื่น ๆ ภายในรถก่อนที่จะนำออกจากอู่ว่ามีอะไหล่สูญหาย หรือถูกสับเปลี่ยนไปบ้างหรือไม่
- ขอดูอะไหล่เก่าทุกชิ้นที่ช่างบอกว่าเปลี่ยนให้ใหม่
- ขอคำแนะนำเรื่องอู่ซ่อมจากญาติหรือบุคคลที่ไว้ใจได้ แต่อย่าวางใจจนกว่าท่านจะได้พิสูจน์ฝีมือและความซื่อสัตย์ด้วยตนเอง
- ถ้าเป็นไปได้ควรให้ผู้มีความรู้เรื่องช่างช่วยตรวจเช็คว่ามีการตรวจซ่อมสมบูรณ์และเปลี่ยนอะไหล่จริงหรือไม่
- เมื่อนำรถออกจากอู่ หากพบว่ายังมีสิ่งผิดปกติรีบนำรถกลับไปให้ช่างตรวจเช็คใหม่โดยเร็ว
อย่างไรก็ตาม การที่พื้นยางประเภทนี้ถูกแบ่งเป็นช่องเล็กๆ จะส่งผลให้ยางมีน้ำหนักมากกว่ายางทั่วไปเล็กน้อย แต่ว่ายางประเภทนี้ก็สามารถใช้กับรถยนต์นั่งส่วนบุคคลทั่วไปได้เป็นอย่างดี
แอซซิมเมทริค แพทเทิร์น (Asymmetric pattern) เป็นยางที่อาจดูแปลกตากว่าลายอื่น เนื่องจากหน้ายางซ้าย-ขวา มีลวดลายที่ไม่เหมือนกัน ทั้งนี้เป็นเพราะว่าการออกแบบดังกล่าว ต้องการให้สามารถทำหน้าที่ทั้งการเพิ่มแรงเสียดทาน ทำให้ประสิทธิภาพในการเกาะถนนในพื้นที่ปกติได้ผลดี และเมื่อต้องลุยน้ำก็จะสามารถรีดน้ำได้ดีเช่นกัน ยางประเภทนี้จึงเหมาะกับรถที่มีใช้งานในเส้นทางที่มีโค้งมากๆ และผู้ขับขี่ใช้ความเร็วสูง เนื่องจากตัวยางมีพื้นที่สัมผัสถนนมาก แอซซิมเมทริค แพทเทิร์น เป็นยางที่ได้รับความนิยมกับรถประเภทสมรรถนะสูงๆ
ไดเร็กชั่นแนล แพทเทิร์น (Directional pattern) หน้ายางจะเป็นร่องยาวขนานกันไปซ้าย-ขวา ซึ่งการที่มีรูปแบบของร่องยางขนานกัน ไม่เพียงแต่จะช่วยในส่วนของการเพิ่มกำลังขับเคลื่อนและเบรก แต่ยังถือว่ามีประสิทธิภาพอย่างยิ่งในการรีดน้ำ ทำให้รถสามารถทรงตัวได้เป็นอย่างดีในกรณีที่มีน้ำขัง ซึ่งยางชนิดนี้เหมาะสำหรับรถยนต์ที่ขับขี่ด้วยความเร็วสูงโดยเฉพาะ
แต่สำหรับผู้ขับขี่บางท่านที่เห็นว่าการเปลี่ยนยางรถยนต์ให้เหมาะกับการใช้งานในแต่ละฤดูนั้นอาจดูเป็นเรื่องที่ฟุ่มเฟือย
เนื่องจากประเทศไทยมีถึง 3 ฤดู การหันมาใช้ยางรถยนต์ที่เหมาะกับสภาพถนนในทุกฤดู (All-season Tyres) ก็อาจเป็นทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจไม่น้อย เพราะมีการออกแบบมาให้สามารถใช้งานตลอดทั้งปี แต่ว่าในแต่ละความสามารถก็อาจจะสู้ยางที่ออกแบบมาโดยเฉพาะไม่ได้ นอกจากนั้นข้อเสียอีกอย่างหนึ่งคือการมีเสียงรบกวนมากกว่ายางชนิดอื่น
ซึ่งหากท่านเจ้าของรถเลือกยางได้อย่างเหมาะสม บวกกับการดูแลเอาใจใส่รถเป็นอย่างดีในทุกรายละเอียด ก็เชื่อว่าหน้าฝนปีนี้ ทุกคนจะมีความสุขกับการเดิน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น